ส่องประเภทเครื่องช่วยฟัง ผู้สูงอายุ 

เครื่องช่วยฟัง ผู้สูงอายุ
December 12, 2023

หูตึงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยสถิติจากกรมการแพทย์ระบุว่า ผู้สูงอายุไทยมากกว่า 1 ใน 3 คนมีปัญหาหูตึง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การใช้ชีวิตในสังคม และคุณภาพชีวิตโดยรวม 

เครื่องช่วยฟังเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มเสียงให้ได้ยินชัดเจนขึ้น จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้สูงอายุที่มีหูตึง โดยเครื่องช่วยฟังในปัจจุบันมีให้เลือกหลายประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. แบบคล้องหลังหู (Behind-the-Ear, BTE)

เป็นประเภทเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และสามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลาย เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงตั้งแต่ระดับปานกลางถึงรุนแรง

ข้อดี

  • ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย
  • สามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลาย
  • เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงตั้งแต่ระดับปานกลางถึงรุนแรง

ข้อเสีย

  • อาจมองเห็นได้ชัด
  • อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก

2. แบบใส่ในช่องหู (In-the-Ear, ITE)

เป็นเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุขนาดเล็กที่ใส่เข้าไปในช่องหู เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติและสบายกว่าแบบคล้องหลังหู แต่อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก

ข้อดี

  • ขนาดเล็ก แนบกับหู ดูเป็นธรรมชาติ
  • สบายกว่าแบบคล้องหลังหู
  • เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

ข้อเสีย

  • อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก
  • อาจใส่หรือถอดยาก

3. แบบซ่อนในช่องหู (In-the-Canal, ITC)

เป็นเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุขนาดเล็กที่สุดที่ใส่เข้าไปในช่องหู เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกมากกว่าแบบ ITE

ข้อดี

  • ขนาดเล็กที่สุด แนบกับหู ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

ข้อเสีย

  • อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกมากกว่าแบบ ITE
  • อาจใส่หรือถอดยาก

4. แบบใส่ในรูหู (In-the-Canal, CIC)

เป็นเครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ ที่เล็กที่สุด ใส่เข้าไปในรูหู เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ช่วยให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกมากที่สุด และอาจหลุดง่าย

ข้อดี

  • ขนาดเล็กที่สุด แนบกับหู ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

ข้อเสีย

  • อาจมีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอกมากที่สุด
  • อาจหลุดง่าย

5. แบบกระดูกนำเสียง (Bone Conduction Hearing Aids)

เป็นเครื่องช่วยฟังที่ส่งสัญญาณเสียงผ่านกระดูกไปยังหูชั้นใน เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงที่เกิดจากปัญหาในหูชั้นกลางหรือประสาทหู

ข้อดี

  • เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีหูตึงที่เกิดจากปัญหาในหูชั้นกลางหรือประสาทหู
  • ไม่มีปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก
  • สวมใส่สบาย

ข้อเสีย

  • อาจทำให้ได้ยินเสียงก้องในหู
  • อาจทำให้ได้ยินเสียงดังขึ้น

การเลือกประเภทเครื่องช่วยฟังที่เหมาะสมควรพิจารณาจากระดับความรุนแรงของหูตึง ความต้องการในการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุ โดยควรปรึกษาแพทย์หรือนักแก้ไขการได้ยินเพื่อขอคำแนะนำ

การดูแลเครื่องช่วยฟัง

เครื่องช่วยฟังเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ควรได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อยืดอายุการใช้งานและประสิทธิภาพการทำงาน โดยควรปฏิบัติดังนี้

  • ทำความสะอาดเครื่องช่วยฟังเป็นประจำ ด้วยผ้านุ่มชุบน้ำสะอาด
  • หลีกเลี่ยงการตกหล่นหรือกระแทกเครื่องช่วยฟัง
  • เก็บรักษาเครื่องช่วยฟังในที่แห้งและปลอดภัย
  • นำเครื่องช่วยฟังไปตรวจเช็คและปรับแต่งตามคำแนะนำของแพทย์หรือนักแก้ไขการได้ยินเป็นประจำ

การดูแลรักษาเครื่องช่วยฟังอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้งานเครื่องช่วยฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพและนานยิ่งขึ้น

Tags: